ระดับไนโตรเจนที่มีผลต่อการผลิตปุ๋ยหมักที่ผลิตจากมูลไส้เดือนดิน

Abstract

การศึกษาระดับของไนโตรเจน ที่มีผลต่อการผลิตปุ้ยหมักที่ผลิตจากมูลไส้เดือนดินมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาถึงชนิดของขยะอินทรีย์ที่เหมาะสมต่อการนำมาเป็นอาหารของไส้เดือนดินและปริมาณนโตรเจนที่ควรเพิ่มให้กับการผลิตปุ๋ยหมักจากมูลไส้เดือนดิน และคุณภาพของปุ๋ยหมักที่ผลิตจากมูลไส้เดือนดินที่มีผลต่อการผลิตพืชการศึกษาถึงขยะอินทรีย์ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของไส้เดือนดิน (Lumbricus rubellus) แสดงว่า จำนวนของไส้เดือนดินมีการเพิ่มขึ้นในตำรับของมูลไก่แห้งที่ระยะ 90 วันโดยมีการเพิ่มปริมาณเฉลี่ยสูงสุดที่ 35 1.33 ตัว และน้ำหนักทั้งหมดเฉลี่ยที่ 123.43 กรัม ในทางกลับกัน ไส้เดือนดินที่เลี้ยงด้วยน้ำชาวข้าว ในช่วงเวลาเดียวกันมีน้ำหนักทั้งหมดเฉลี่ยต่ำสุดที่ 1.06 กรัมผลการทดลองสรุปได้ว่า ขยะอินทรีย์ทุกชนิดสามารถนำมาเลี้ยงไส้เดือนดินได้ โดยก่อนที่จะนำมาเลี้ยงขยะอินทรีย์เหล่านั้นต้องเริ่มย่อยสลายตัว ารศึกษาถึงปริมาณไนโตรเจนที่เพิ่มให้กับการผลิตปุยหมักที่ผลิตจากมูลไส้เดือนดินในช่วง 90 วัน แสดงว่า ปริมาณไนโตรเจนในรูปมูลไก่แห้ง 0.25 เปอร์เซ็นต์ ที่เพิ่มให้กับเศษฟางข้าวสามารถเพิ่มจำนวนของไส้เดือนดินสูงสุดที่ 81.33 ตัว ในขณะที่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ของไนโตรเจนในรูปมูลไก่แห้งสามารถเพิ่มน้ำหนักทั้งหมดเฉลี่ยของ ไส้เดือนดินสูงสุดที่ 21.60 กรัม และน้ำหนักเฉลี่ยต่อตัวที่ 0.48 กรัม ไนโตรเจนที่มีอยู่ในมูลสัตว์มีความเหมาะสมในการผสมกับขยะอินทรีย์ที่ย่อยสลายยาก ในขบวนการผลิตปุ๋ยหมักที่ผลิตจากมูลไส้เดือนดินและให้ผลที่ดีกว่าไนโตรเจนในรูปสารเคมี การศึกษาผลของปุ้ยหมักที่ผลิตจากมูลไส้เดือนดินที่มีต่อการผลิตพืช แสดงว่า วัสดุเพาะทางการค้าเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของต้นกล้ามะเขือเทศกับผักกาดหอมสูงที่สุดในระยะกล้าที่ 25 วัน สำหรับผักคะน้าที่ 28 วันหลังจากย้ายกล้าปลูก การใส่ปุ๋ยหมักที่ผลิตจากมูลไส้เดือนดินร่วมกับปุยยูเรียให้ผลการเจริญเติบโตสูงสุด