Please use this identifier to cite or link to this item: http://ir.mju.ac.th/dspace/handle/123456789/471
Title: VEGETATION STRUCTURE, FUNCTIONAL TRAIT AND DIVERSITY OF TREES SPECIES IN TROPICAL LIMESTONE HILL FOREST, LOP BURI PROVINCE
โครงสร้างสังคมพืช ลักษณะเชิงหน้าที่ และความหลากหลายของพรรณไม้ต้น ในป่าเขาหินปูนเขตร้อน จังหวัดลพบุรี
Authors: Pitakthai Pramosee
พิทักษ์ไทย ประโมสี
Lamthai Asanog
แหลมไทย อาษานอก
Maejo University. Maejo University - Phrae Campus
Keywords: โครงสร้างสังคมพืช
ความหลากหลายลักษณะเชิงหน้าที่
ความเด่นลักษณะเชิงหน้าที่
ปัจจัยสิ่งแวดล้อม
การจัดการป่าเขาหินปูนเขตร้อน
Vegetation structure
Functional trait diversity
Trait dominant
Environmental factors
Tropical limestone forest management
Issue Date: 2021
Publisher: Maejo University
Abstract: Tropical limestone forest management needed understand species composition and plant functional trait of forest stand for emphasis the knowledge of limestone ecosystem functioning. This study investigated species composition plant functional trait and diversity of tree had related to environmental factors in tropical limestone forest on Wat Pa Pattarapiyaram, Lop Buri province. The study during on October 2019 to September 2020. The transect sampling plot were establish on two limestone hill included pure limestone (PLM) and limestone mixed with granite (LMG). In each limestone hill were establish sampling plot wide 10 m from lower to top of the hill along altitude gradient covered four directions (N, S, E, and W). In each transect divided into 10 m x 10 m plots were 135 plots in total, located in PLM 65 plot and 70 plots of LMG. Species composition and functional trait of tree and environmental factors were collected for analyzed forest species composition functional trait diversity and relationship with environmental factors of them. The results showing that 61 species 52 genus and 24 family from 996 stem of tree in total on study sites. The PLM forest show that 45 species 41 genus 20 family. This site had shown Shannon-Winer index, basal area, and stem density were 3.08, 7.77 m2 ha-1 and 807 stem ha-1 respectively, the important species such as Sterculia guttata, Phanera bracteate and Bridelia ovata are show. The LMG forest show that 43 species 40 genus and 19 family. This site had shown Shannon-Winer index, basal area, and stem density were 2.89, 7.65 m2 ha-1 and 672 stem ha-1 respectively, the important species such as Bombax anceps, Hymenodictyon orixense and Albizia odoratissima are show. Species composition of tree and seedling/sapling in study sites were prevented by rocky outcrop such as Sterculia guttata, Terminalia nigrovenulosa and Spondias bipinnata. Species was prevented by sun light such as Firmiana colorata, Lantana camara and Pterocarpus macrocarpusand species was prevented by soil depth such as Spondias pinnata, Hymenodictyon orixense and Bombax anceps. The dominant species in study sites are show function trait syndrome into 4 group; 1) species with high leaf dry matter content and wood density such as Archidendron clypearia, Zollingeria dongnaiensis and Sterculia guttata, 2) species with high specific leaf area such as Bridelia ovata, Hubera cerasoides and Chukrasia tabularis 3) species with larger leaf such as Spondias pinnata, Hymenodictyon orixense and Bombax anceps, and 4) species with leaf thickness such as Haldina cordifolia, Ficus microcarpa and Pterospermum acerifolium. The PLM forest are show higher functional trait diversity than LMG forest, but LMG had higher trait dominant than PLM forest. The functional trait diversity such as Rao’s quadratic entropy value had prevented by rocky outcrop, and trait dominant such community-weight mean of leaf area had limited by soil depth. The results suggesting that rocky outcrop is important factor of lime stone forest because of it was affected on both species diversity and functional trait diversity. So, tropical limestone forest management should consider species composition and functional trait to better understand the functioning of the limestone forest ecosystem.
การจัดการป่าเขาหินปูนเขตร้อนจำเป็นต้องเข้าใจถึงองค์ประกอบชนิดและลักษณะเชิงหน้าที่ของหมู่ไม้ เพื่อทำให้เข้าใจถึงการทำงานของระบบนิเวศเขาหินปูนได้มากขึ้น ดังนั้นการวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบชนิด ลักษณะเชิงหน้าที่ และความหลากหลายของไม้ต้นที่สัมพันธ์กับปัจจัยสิ่งแวดล้อมในป่าเขาหินปูนเขตร้อน ในพื้นที่วัดป่าภัทรปิยาราม จังหวัดลพบุรี ในระหว่างเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562 ถึง กันยายน พ.ศ. 2563 โดยทำการวางแปลงตัวอย่างแบบแถบในพื้นที่เขาหินปูนสองลูกเขา ได้แก่ เขาหินปูนล้วนและเขาหินปูนผสมแกรนิต โดยการวางแปลงในแต่ละลูกเขากำหนดให้กว้าง 10 เมตร และความยาวขึ้นอยู่กับความสูงจากตีนเขาถึงยอดเขาให้ครอบคลุมทั้งสี่ทิศคือ เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก และในแต่ละแถบทำการแบ่งเป็นแปลงย่อยขนาด 10 เมตร x 10 เมตร รวมทั้งสิ้น 135 แปลง แบ่งเป็นเขาหินปูนล้วน 65 แปลง และเขาหินปูนผสมแกรนิต 70 แปลง เพื่อเก็บข้อมูลองค์ประกอบชนิดของไม้ต้น ลักษณะเชิงหน้าที่ของพรรณพืช และปัจจัยสิ่งแวดล้อม แล้วทำการวิเคราะห์ลักษณะของสังคมพืช ความหลากหลายของลักษณะเชิงหน้าที่ และความสัมพันธ์กับปัจจัยสิ่งแวดล้อม ผลการศึกษาพบว่า เขาหินปูนในพื้นที่วัดป่าภัทรปิยารามปรากฏพันธุ์ไม้ 61 ชนิด 52 สกุล 24 วงศ์ จากทั้งหมด 996 ต้น โดยแบ่งเป็นเขาหินปูนล้วน 45 ชนิด 41 สกุล 20 วงศ์ โดยพื้นที่แห่งนี้มีดัชนีความหลากชนิด เท่ากับ 3.08 มีขนาดพื้นที่หน้าตัดและความหนาแน่นของไม้ใหญ่ เท่ากับ 7.77 ตร.ม./เฮกแตร์ และ 807 ต้น/เฮกแตร์ ตามลำดับ โดยมีชนิดไม้สำคัญ เช่น ปอทง (Sterculia guttata) เสี้ยวเครือ (Phanera bracteata) และมะกา (Bridelia ovata) ส่วนเขาหินปูนผสมแกรนิตปรากฏพันธุ์ไม้ 43 ชนิด 40 สกุล 19 วงศ์ โดยพื้นที่แห่งนี้มีดัชนีความหลากชนิด เท่ากับ 2.89 มีขนาดพื้นที่หน้าตัดและความหนาแน่นของไม้ใหญ่ เท่ากับ 7.65 ตร.ม./เฮกแตร์ และ 672 ต้น/เฮกแตร์ ตามลำดับ โดยมีชนิดไม้สำคัญ เช่น งิ้วผา (Bombax anceps) ส้มกบ (Hymenodictyon orixense) และกางขี้มอด (Albizia odoratissima) และยังพบว่าองค์ประกอบไม้ใหญ่และลูกไม้/กล้าไม้ของชนิดไม้สำคัญ ประกอบด้วยชนิดที่ถูกกำหนดด้วยปัจจัยหินโผล่ เช่น ปอทง ขี้อ้าย (Terminalia nigrovenulosa) และมะกัก (Spondias bipinnata) ชนิดที่ถูกกำหนดด้วยปริมาณแสง เช่น ปอฝ้าย (Firmiana colorata) ผกากอง (Lantana camara) และประดู่ (Pterocarpus macrocarpus) และชนิดที่ถูกกำหนดด้วยความลึกดิน เช่น มะกอก (Spondias pinnata) ส้มกบ (Hymenodictyon orixense) และงิ้วผา (Bombax anceps) ชนิดไม้ในพื้นที่ศึกษาสามารถแบ่งตามลักษณะเชิงหน้าที่ได้ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) ชนิดที่มีค่าสัดส่วนน้ำหนักแห้งต่อน้ำหนักสดของใบ และความหนาแน่นของเนื้อไม้มาก เช่น สะท้อน (Archidendron clypearia) ขี้หนอน (Zollingeria dongnaiensis) และขี้อ้าย เป็นต้น 2) ชนิดที่มีพื้นที่ใบจำเพาะมาก เช่น มะกา (Bridelia ovata)  กระเจียน (Hubera cerasoides) และยมหิน (Chukrasia tabularis) เป็นต้น 3) ชนิดที่มีขนาดพื้นที่ใบมาก เช่น งิ้วผา ส้มกบ และมะกอก  4) ชนิดที่มีความหนาใบมาก คือ ขว้าว (Haldina cordifolia) ไทรย้อยใบทู่ (Ficus microcarpa) และปอหูช้าง (Pterospermum acerifolium) เป็นต้น และยังพบว่าเขาหินปูนล้วนมีค่าความหลากหลายของลักษณะเชิงหน้าที่สูงกว่าเขาหินปูนผสมแกรนิต ในขณะที่เขาหินปูนผสมแกรนิตปรากฏความเด่นของลักษณะเชิงหน้าที่มากกว่าเขาหินปูนล้วน โดยความหลากหลายของลักษณะเชิงหน้ที่ถูกกำหนดด้วยปัจจัยปริมาณหินโผล่ คือค่าเอนโทรปีกำลังสองของ Rao ในขณะที่ปัจจัยความลึกดินกำหนดปริมาณของค่าความเด่นของลักษณะเชิงหน้าที่ คือค่าถ่วงน้ำหนักลักษณะเชิงหน้าที่ของขนาดพื้นที่ใบ จากผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่าปริมาณหินโผล่ถือว่าเป็นปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญของป่าเขาหินปูนเขตร้อนเนื่องจากทำให้เกิดทั้งความหลากชนิดและความหลายของลักษณะเชิงหน้าที่ ดังนั้นในการจัดการพื้นที่ป่าเขาหินปูนจึงควรพิจารณาทั้งองค์ประกอบชนิดและลักษณะเชิงหน้าที่ของพรรณพืชเพื่อให้เข้าใจถึงการทำงานของระบบนิเวศป่าเขาหินปูนมากยิ่งขึ้น         
Description: Master of Science (Master of Science (Forest Management))
วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการป่าไม้))
URI: http://10.1.245.54/dspace/handle/123456789/471
Appears in Collections:Maejo University - Phrae Campus

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6208301012.pdf3.24 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.